20 หญิงสุดยอดเก่งประจำปี 2013

พวกเธอมีชื่อเสียง ความสามารถ แถมยังสวยสมบูรณ์แบบ เพื่อฉลองวันสตรีสากล เราจึงได้รวบรวม 20 หญิงเก่งที่เป็นแรงผลักดันให้ผู้หญิงทุกวัยทั่วโลก 

ออง ซาน ซูจี 

1. ออง ซาน ซูจี
นางออง ซาน ซูจี เกิดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 1945 เป็นบุตรคนที่ 3 และบุตรสาวคนเดียวของนายออง ซาน บิดาแห่งพม่ายุคใหม่ (ซึ่งถูกฝ่ายตรงข้ามสังหารไปเมื่อปี 1947) นางออง ซาน ซูจี กลายมาเป็นนักการเมืองฝ่ายค้านของพม่า และเป็นเลขาธิการของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในพม่า เธอยืนหยัดต่อต้านการปกครองระบอบเผด็จการของนายพลเนวิน และเธอก็เริ่มต้นการเคลื่อนไหวแบบไร้ความรุนแรงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศบ้านเกิดของเธอ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2012 พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของเธอชนะได้ที่นั่ง 43 จากทั้งหมด 45 ในรัฐสภา ทำให้นางออง ซาน ซูจี ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรของพม่าในที่สุด
นางซูจีได้รับเกียรติคว้ารางวัลต่างๆมากมายจากการยืนหยัดต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพทางการเมือง หนึ่งในนั้นก็คือรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ (1991) และเหรียญรางวัลวอลเลนเบิร์ก (2011)  รางวัลเหรียญทองรัฐสภา จากสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2012 รวมไปถึง เหรียญแห่งอิสรภาพของประธานาธิบดี ที่เป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดของพลเรือนในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
ออง ซาน ซูจี
2. อะเดล
อะเดล ลอรี บลู แอดคินส์ (Adele Laurie Blue Adkins) เกิดที่ท็อตแนมทางตอนเหนือของลอนดอน และย้ายมาอาศัยในย่านไบรตันโดยมีแม่เป็นผู้เลี้ยงดูเพียงคนเดียว วง Spice Girls เป็นแรงบันดาลใจหลักที่ทำให้อะเดลหลงรักเสียงดนตรี และเธอก็มักจะพยายามเลียนแบบสาวๆวง Spice Girls อยู่บ่อยๆ อะเดลเริ่มต้นอาชีพนักร้องของเธอหลังจากได้ข้อเสนอร่วมเซ็นสัญญากับค่ายเพลง XL Recordings หลังจากที่เธอโชว์ความสามารถผ่านเว็บไซต์ Myspace ไปเมื่อปี 2006

ปีต่อมาเธอก็ได้รางวัลบริทอวอร์ดส์ คริติกส์ชอยส์อวอร์ดส์ ตามติดด้วยรางวัลบีบีซีซาวน์ประจำปี 2008 ผลงานทั้ง 2 อัลบั้มของเธอในชื่อ 19 และ 21 ก็ประสบความสำเร็จจากทั้งนักวิจารณ์และด้านรายได้ ล่าสุดเธอเพิ่งคว้ารางวัลจากเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำจากผลงานเพลง Skyfall ประกอบหนังเจมส์ บอนด์ในชื่อเดียวกันมาหมาดๆ
แม้อะเดลจะเป็นนักร้องที่ไม่ได้มีหุ่นสวยเช้งวับเหมือนเพื่อนร่วมวงการส่วนใหญ่ แต่เธอก็เคยออกมายืนยันเองว่าเธอพอใจและจะไม่พยายามลดน้ำหนักตัวเองลง เว้นเสียแต่ว่าด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้อะเดลกับแฟนหนุ่ม Simon Konecki ก็เพิ่งจะต้อนรับลูกชายตัวน้อยๆไปเมื่อช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมานี้เอง
ออง ซาน ซูจี
3. บียอนเซ
บียอนเซ หนึ่งในดาราที่เจิดจรัสที่สุดในวงการฮอลลีวูด สมกับชื่อของเธอที่มีความหมายได้ว่า 'ทรงพลัง' บียอนเซ เริ่มต้นโด่งดังด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Destiny's Child แต่เธอก็สามารถโด่งดังเป็นพลุแตกได้หลังจากแยกตัวออกมาโดดเด่นแบบเดี่ยวๆ เพลงของเธอจำนวนไม่น้อยกว่า 11 เพลงจาก 4 อัลบั้มเดี่ยวของเธอสามารถขึ้นไปติดอันดับสูงสุดในชาร์ทเพลงดังทั่วโลกได้ แถมเธอยังคว้ารางวัลแกรมมีอวอร์ดมาแล้วถึง 17 ครั้ง อัลบั้มของเธอทำยอดขายสูงเกินกว่า 118 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก เป็นหนึ่งในนักร้องที่มีผลงานเพลงขายดีที่สุดตลอดกาล
แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัญฯ นายบารัค โอบามา ก็ยังยกย่องให้ บียอนเซ เป็นผู้หญิงที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง หลังจากที่เธอได้มีส่วนช่วยในองค์กรการกุศลต่างๆมากมาย บียอนเซยังรับหน้าที่เป็นฑูตให้กับวันเด็กสากลประจำปี 2005 และเธอก็ร่วมก่อตั้งองค์กร Survivor Foundation ร่วมกับเพื่อนนักร้องสาว เคลลี โรว์แลนด์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคนแคทรีนาอีกด้วย
ออง ซาน ซูจี
4. เอลเลน ดีเจเนอเรส
เอลเลน (Ellen Degeneres) เริ่มเป็นนักแสดงตลกแนวสแตนด์-อัปคอเมดีในคลับและร้านกาแฟเล็กๆ เธอมีชื่อเสียงจากความสามารถด้านตลกเบาสมอง และยังพยายามทำงานการกุศลในรายการทอล์คโชว์ยอดฮิต The Ellen DeGeneres Show อีกด้วย เอลเลนเคยคว้ารางวัลเอมมีส์อวอร์ดส์ไปถึง 13 ครั้ง แล้วก็ยังมีรางวัลที่เธอได้จากกิจกรรมการกุศลต่างๆ

นอกจากความสามารถและความใจบุญของเธอแล้ว เมื่อปี 2008 เธอก็ได้เซ็นสัญญากับแบรนด์เครื่องสำอาง Cover Girl Comestics เป็นนางแบบร่วมกับดาราทรงเสน่ห์คนอื่นๆอย่าง Sofia Vegara, Taylor Swift และ P!nk
เอลเลน แต่งงานกับสามี Portia de Rossi ไปตั้งแต่ปี 2008 (คนซ้ายสุด)
ออง ซาน ซูจี
5. มาริสซา เมเยอร์
มาริสซา แอนน์ เมเยอร์ (Marissa Ann Mayer) บัณฑิตมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริหาร (ซีอีโอ) ของ 'ยาฮู! (Yahoo!)' เว็บไซต์ให้บริการอีเมลล์ยักษ์ใหญ่ของโลก ก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นผู้บริหารและกระบอกเสียงของบริษัทคู่แข่งอย่าง 'กูเกิล (Google)' รับหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลหน้าตาของเว็บไซต์เซิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของโลก ตอนนี้เธอเป็นซีอีโอที่มีอายุน้อยที่สุดในรายชื่อของนิตยสาร Fortune และเธอยังครองตำแหน่งนักธุรกิจหญิงอเมริกันที่ทรงอิทธิพลที่สุดเป็นอันดับที่ 14 ตามการจัดอันดับของนิตยสารเดียวกันเมื่อปี 2012
ความสำเร็จของมาริสซา เป็นตัวอย่างให้คนทั่วโลกเห็นว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานไปพร้อมๆกับการมีครอบครัวที่ดีไปพร้อมๆกันได้ แม้จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายเมื่อตอนเธอทำงานจากบ้านหลังให้กำเนิดลูกชาย แล้วก็ยังสั่งสร้างสถานดูแลเด็กให้ติดกับออฟฟิศของเธอ แต่ถึงยังไงเธอก็กล่าวถึงการจัดลำดับความสำคัญในชีวิตของเธอว่า 'พระเจ้า, ครอบครัว, และยาฮู ตามลำดับ'
ออง ซาน ซูจี
6. คิมิเอะ อิตาวะ
ในบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นแบรนด์ 'ชิเซโด้' คิมิเอะ อิตาวะ ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริหารตั้งแต่เดือน เม.ย. 2008 จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2012 ในญี่ปุ่น การที่ผู้หญิงจะขึ้นครองตำแหน่งใหญ่ขนาดนั้นถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยาก และเธอก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของสตรีญี่ปุ่นผู้ทรงอิทธิพลที่สามารถนำความสำเร็จมาสู่องค์กรที่เธอทำงานให้ได้
คิมิเอะ อิตาวะ เป็นผู้นำในการให้สิทธิแก่สตรีในสถานที่ทำงาน ยกตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดก็ตอนที่เธอเปิดสถานเลี้ยงดูเด็กอ่อนที่สำนักงานใหญ่ของ ชิเซโด้ ในโตเกียวเมื่อปี 2003 และยังเปิดโอกาสให้พนักงานแบบพาร์ทไทม์สามารถยื่นขอเป็นพนักงานที่ปรึกษาแบบฟูลไทม์ เพื่อเอาเวลาไปเลี้ยงดูบุตรได้ ผลที่เกิดตามมาก็คือพนักงานหญิงของ ชิเซโด้ ส่วนใหญ่ยังคงเลือกอยู่กับบริษัทต่อไปแม้จะเพิ่งให้กำเนิดบุตรก็ตาม ทุกวันนี้ตำแหน่งผู้จัดการใน ชิเซโด้ เป็นผู้หญิงประมาณ 1 ใน 5 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่ายินดีในสังคมของชาวญี่ปุ่น อิตาวะ เคยกล่าวเอาไว้ว่า 'เป้าหมายไม่ใช่แค่เพื่อให้พวกเธอกลับมาทำงาน แต่เป็นเพราะเราอยากให้อาชีพของพวกเธอมีความก้าวหน้าโดยไม่เกี่ยงประเด็นในเรื่องของเพศ'
ออง ซาน ซูจี
7. Garance Doré
Garance Doré เกิดและเติบโตในประเทศฝรั่งเศส เธอเคยตั้งความฝันไว้ว่าอยากเป็นนักวาดการ์ตูนให้ดิสนีย์มาตั้งแต่เด็ก งานแรกของเธอคือนักข่าวภาพยนตร์ แต่เธอก็หันไปรับงานวาดภาพเล็กๆน้อยๆให้นิตยสารแทน ต่อมาเธอก็เปิดเว็บบล็อกในชื่อ GaranceDore.fr ในเดือน มิ.ย. 2006 ซึ่งกลายมาเป็นประตูให้ความคิดสร้างสรรค์อันแสนจะบรรเจิดของเธอ บล็อกของเธอเป็นตัวอย่างของเสรีภาพในความคิดสร้างสรรค์ให้กับชาวปารีส ทำให้เธอได้ใช้เวลาสำรวจและสร้างสรรค์ผลงานด้านแฟชั่น, งานวาดเขียน, การบรรยาย, ตลอดจนการถ่ายภาพ
เธอเคยทำงานให้กับนิตยสาร Vogue ของฝรั่งเศส และเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายๆบริษัทยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ดัง The Gap ที่เธอเคยออกแบบลายบนเสื้อยืดวางขายด้วยจำนวนที่จำกัดแบบสุดๆในย่านช็อปปิ้งชื่อดัง ถนนคาร์นาบี กรุงลอนดอน เธอยังเคยรับหน้าที่วาดภาพให้กับแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังในออสเตรเลียเพื่อใช้ในงานแฟชั่นวีค RAFW 2010 นอกจากนี้เธอก็ยังเคยสร้างสรรค์ผลงานออกแบบให้แบรนด์ในออสเตรเลียมากมายอย่าง Zimmermann, Gorman, Thurley, Bettina Liano, Country Road, Arthur Galan และ Leona Edminston
Garance Doré มักจะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ทั่วโลกกับ Scott Schuman ดีไซเนอร์เสื้อผ้าชื่อดังอยู่เสมอๆ
ออง ซาน ซูจี
8. เกรซ คอดดิงตัน
เธอโด่งดังในวงการแฟชั่น แล้วถ้าคุณเคยเห็นภาพเธอแล้วก็จะจำได้ไม่ยากเพราะผมสีแดงแป้ดของเธอ เกรซ คอดดิงตัน เกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 1941 เธอเติบโตขึ้นมาในเวลส์ ท่ามกลางครอบครัวของเธอซึ่งเปิดกิจการโรงแรมอยู่ที่นั่น เมื่ออายุได้ 17 ปี เธอก็ชนะการประกวดของนิตยสาร Vogue หลังจากแค่ส่งรูปของตัวเองไป และได้เข้าสู่วงการนางแบบนับแต่นั้นเป็นต้นมา
เกรซ คอดดิงตัน เคยเป็นนักแต่งภาพในนิตยสาร Vogue อังกฤษนานถึง 19 ปี และเคยทำงานให้กับแบรนด์ดัง Calvin Klein ในนิวยอร์คอยู่พักหนึ่ง ปัจจุบัน เธอรับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของนิตยสาร Vogue สหรัฐฯ มาตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. 1988 และกลายมาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

โดยเฉพาะจากนิตยสารฉบับเดือน ก.ย. 2009 และสารคดีที่ว่าด้วยเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างสรรค์นิตยสาร Vogue ฉบับเดือน ก.ย. 2007 การทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างเธอกับนางแบบแฟชั่นไอคอนคนดัง Anna Wintour ถูกนำมาเน้นเป็นประเด็นหลักในหนังสารคดีเรื่องนั้น เผยให้เห็นความสามารถในการนำเอาดีไซเนอร์, ช่างภาพ, และช่างแต่งหน้าระดับโลก ให้มาร่วมมือกันในผลงานภาพถ่ายที่แปลกโดดเด่นสร้างชื่อเสียงให้เธอได้ ถึงขนาดที่เรื่องราวชีวิตในวงการแฟชั่นทั้งหมดของเธอถูกนำมาถ่ายทอดผ่านหนังสืออัตชีวประวัติชื่อ 'Grace, A Memoir'
ออง ซาน ซูจี
9. เจน กูดดัลล์
เมื่อตอน เจน กูดดัลล์ ยังเป็นเด็ก พ่อของเธอให้ของขวัญเป็นของเล่นรูปลิงชิมแปนซีชื่อ จูบิลี ซึ่งจุดประกายให้เธอกลายมาเป็นผู้ที่อุทิศตนให้สัตว์ดังเช่นทุกวันนี้

นักสัตววิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, นักมานุษยวิทยา, และผู้ส่งสารเพื่อสันติภาพแห่งสหประชาชาติ เริ่มต้นสายอาชีพของเธอเมื่อปี 1957 ด้วยการเป็นเลขาธิการให้กับ Louis Leakey นักโบราณคดีและนักบรรพชีวินวิทยาชาวเคนยา ผู้กำลังเสาะหานักวิจัยลิงชิมแปนซีอยู่ ณ ตอนนั้น Leakey  ส่งเธอไปลอนดอนในปีถัดมาเพื่อศึกษาพฤติกรรมและกายวิภาคของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปัจจุบัน เธอกลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องลิงชิมแปนซีมากที่สุดในโลก จากประสบการณ์กว่า 45 ปีที่ได้ศึกษาและสังเกตการณ์ลิงชิมแปนซีตามธรรมชาติในอุทยาน Gombe Stream National Park ประเทศแทนซาเนีย
เจน กูดดัลล์ ผู้ก่อตั้ง สถาบันเจน กูดดัลล์ วัย 78 ปี ยังคงทำงานเพื่ออนุรักษ์และสงเคราะห์สัตว์ต่างๆอยู่เสมอ
ออง ซาน ซูจี
10. เจนนา ไลออนส์
เธอเป็นที่รู้จักว่าเป็น 'สตรีที่แต่งกายให้ประเทศอเมริกา' (หรือบางครั้งก็เป็นชื่อของนางมิเชลล์ โอบามา) เจนนา ไลออนส์ เริ่งชมงานในแบรนด์เสื้อผ้า J.Crew ในฐานะผู้ช่วยดีไซเนอร์ตั้งแต่ปี 1990 และค่อยๆไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆจนกลายเป็นประธานและผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ และล่าสุดเธอก็กลายเป็นหนึ่งในคนดังประจำวงการไปแล้ว เธอเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ที่มีความสามารถ, ประสบการณ์, มีความคิดสร้างสรรค์ที่สุดตามที่ Millard S. Drexler (ประธานบริหารของ J. Crew) ผู้เป็นอาจารย์ของเธอบอกไว้

เอกลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของเธอก็คือแว่นตาทรงเหลี่ยม กับรูปร่างสูงเกือบ 2.7 เมตร (อันเป็นผลมาจากอาการผิดปกติทางพันธุ์กรรม Incontinentia Pigmenti) เธอเป็นกุญแตสำคัญที่ทำให้แบรนด์ J. Crew มียอดขายสูงขึ้นถึง 14% เมื่อปี 2009 จนได้รางวัลเป็นโบนัสก้อนโตมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เจนนา ไลออนส์ กลายเป็นคราวครึกโครมเมื่อตอนหย่ากับสามีที่อยู่กินด้วยกันมานาน 9 ปี Vincent Mazeau พร้อมลูกชายวัย 6 ขวบ เพื่อไปคบกับ Courtney Crangi แม่หม้ายสาวลูก 3

 

ออง ซาน ซูจี

11. เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์
ดาราดังจากหนังเรื่อง The X-Men: First Class และ Silver Linings Playbook ที่เพิ่งล้มกลางบันไดตอนขึ้นไปรับรางวัลงานออสการ์ หนึ่งในสาวที่เป็นที่รักที่สุดในวงการฮอลลีวูดตอนนี้ นิตยสาร Rolling Stone ถึงกับกล่าวว่าเธอเป็น 'นักแสดงสาวอเมริกันที่มากความสามารถที่สุด' เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ โด่งดังขึ้นมาจากหนังเรื่อง Winter's Bone  เมื่อปี 2010 แล้วกสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีงานลูกโลกทองคำและสกรีนแอคเตอร์สกิลด์อวอร์ดส์ได้อีกด้วยนะ
ในวัย 22 ปี การแสดงของเธอในบทบาทของตัวละครติดเซ็กซ์ในหนังตลกเรื่อง Silver Linings Playbook เมื่อปี 2012 กวาดรางวัลสกรีนแอคเตอร์สกิลด์อวอร์ดส์, ลูกโลกทองคำ, อินดิแพนเดนท์สปิริตอวอร์ด, รวมทั้งรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีใหญ่อย่างออสการ์ ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงสาวที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมถึง 2 ครั้ง และเป็นนักแสดงสาวที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่สามารถคว้ารางวัลดังกล่าวได้
ล่าสุด เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ก็ได้ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของวงการแฟชั่นด้วยการเป็นนางแบบให้กับแบรนด์ดังอย่าง Dior ในปีนี้ด้วย
ออง ซาน ซูจี
12. มิซูฮารา กิโกะ
กิโกะ มิซูฮารา เป็นนางแบบนักแสดงลูกครึ่งเชื่อสายอเมริกัน-เกาหลี แต่อาศัยอยู่ในโตเกียวเป็นหลัก เมื่อปี 2001 มีแมวมองไปพบรูปที่เธอส่งเข้ามา เธอเลยได้ประเดิมวงการด้วยการลงประกวดที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร Seventeen เธอมีผลงานรับบทเป็นตัวละครชื่อ มิโดริ ในหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือของ Haruki Murakami ในชื่อเดียวกันเรื่อง Norwegian Wood เมื่อปี 2010 กำกับโดย Tran Anh Hung
กิโกะ ค่อยๆก้าวขึ้นสู่สปอตไลท์ในวงการแฟชั่นระดับโลก เธอได้รับการเชิญให้ไปร่วมงานแฟชั่นดังๆมากมายอย่างงานของแบรนด์ Chanel ที่ปารีส ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน The Little Black Jacket จัดแสดงผลงานภาพถ่ายระดับนานาชาติของ Karl Lagerfeld อีกด้วย
ออง ซาน ซูจี
13. เจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน
พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่ประชาชนรักมากที่สุด เจ้าหญิงเคท มิดเดิลตันทรงประสูติ (พระนามเดิมว่า แคเธอริน อลิซาเบธ มิดเดิลตัน) ที่หมู่บ้านในบาร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ พระองค์ทรงเข้าศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่ทรงได้พบกับเจ้าชายวิลเลียม ตั้งแต่ปี 2001 นอกจากบทบาทของพระองค์ในราชวงศ์แล้ว เจ้าหญิงเคทยังมีบทบาทต่อวงการแฟชั่นของอังกฤษด้วยเช่นกัน ถึงขนาดเป็นกระแสที่เรียกว่า 'เคท มิดเดิลตัน เอฟเฟ็คต์'

พระองค์ทรงได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร Time ให้เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดประจำปี 2012 ชุดงานอภิเษกสมรสของพระองค์ได้รับการออกแบบโดย Sarah Burton กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมที่ถูกเจ้าสาวทั่วโลกนำไปเลียนแบบ
ในเดือน มิ.ย. 2012 มูลนิธิการกุศลเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น มูลนิธิดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์และเจ้าชายแฮร์รี่ สะท้อนถึงการอุทิศพระวรกายของเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตันต่อองค์กรดังกล่าว
ตอนนี้เจ้าหญิงเคท มิดเดิลตันก็กำลังทรงพระครรภ์ และทรงมีกำหนดพระประสูติกาลภายในเดือน ก.ค. ที่กำลังจะถึงนี้
ออง ซาน ซูจี
14. แคทริน บิเกโลว์ 

แคทริน แอนน์ บิเกโลว์ ผู้กำกับ, ผู้อำนวยการสร้าง, นักเขียนบท ภาพยนตร์และทีวีชาวอเมริกัน เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลแซทเทิร์นอวอร์ดสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจากผลงานหนังเรื่อง Strange Days เมื่อปี 2005 และที่เด่นชัดที่สุดก็คือผลงานหนังเรื่อง The Hurt Locker เมื่อปี 2008 ที่ส่งให้เธอเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวท่ามกลางวงการที่มักตกเป็นของผู้ชายมาตลอด

แล้วยังสามารถคว้ารางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากทั้งเวทีออสการ์แบบบาฟตาอวอร์ด เธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่คว้ากวาดรางวัลในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์, เวทีงานไดแรคเตอร์สกิลด์ออฟอเมริกาอวอร์ด, งานบาฟตา, และงานคริติกส์ชอยส์อวอร์ดอีกด้วย
นอกจากนี้ แคทริน บิเกโลว์ ก็ยังอยู่ในรายชื่อบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด 100 คนจากการจัดอันดับของนิตยสาร Time ประจำปี 2010
ออง ซาน ซูจี
15. เมอรีล สตรีป 

เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) เกิดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 1949 ปัจจุบันเธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหญิงที่มีความสามารถมากที่สุดตลอดกาล อดีตดาราจากเรื่อง Devil Wears Prada คนนี้เคยคว้ารางวัลออสการ์ถึง 3 ครั้งจากการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากถึง 17 ครั้ง กับอีก 8 จาก 27 สาขาที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ซึ่งนับว่ามากกว่าที่ดาราคนไหนเคยทำได้ตลอดประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ ผลงานการแสดงของเธอคว้ารางวัลอื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัลเอมมีอวอร์ด 2 ครั้ง, รางวัลนิวยอร์คฟิล์มคริติกส์เซอร์เคิลอวอร์ดส์ 5 ครั้ง ฯลฯ แถมเมื่อปี 2010 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ก็มอบรางวัล National Medal of Arts ให้เธออีกด้วย
เป็นโฆษกของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สตรีแห่งชาติ (National Women's History Museum) ที่เธอได้บริจาคเงินเป็นจำนวนมาก (รวมทั้งค่าตัวในหนังเรื่อง The Iron Lady ของเธอทั้งหมด) แล้วยังรับหน้าที่จัดงานกิจกรรมให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาหลายครั้งหลายครา แล้วเธอยังเคยบริจาคเงินจำนวนกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯให้แก่องค์กร Public Theater เมื่อปี 2012 ในนามของ Joseph Papp เพื่อนผู้ก่อตั้ง และนักเขียน Nora Ephron เมอรีลแต่งงานกับ Don Gummer ไปตั้งแต่ปี 1978 จนปัจจุบันลูกๆทั้ง 4 คนของเธอก็โตกันหมดแล้ว
ออง ซาน ซูจี
16. มิเชลล์ โอบามา
สุภาพสตรีอันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกาในภาพที่เธออยู่ร่วมกับลูกสาว 2 คนนี้จบการศึกษาสาขาแอฟริกัน-อเมริกันศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันกับโรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเมื่อปี 1988 เคยทำงานในสำนักงานกฎหมายซิดลีย์แอนด์ออสตินในชิคาโก ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้พบรักกับประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบัน นายบารัค โอบามานั่นเอง

หลังจากนั้นเธอหันมาทำงานบริการสังคม ในฐานะผู้ช่วยเทศมนตรีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ที่ศาลากลางจังหวัดเมืองชิคาโก ก่อนจะมาเป็นผู้อำนวยการบริหาร องค์กรพันธมิตรประชาชน (Public Allies) ส่วนเมืองชิคาโก หนึ่งในโครงการ AmeriCorps ที่มีจุดหมายเพื่อฝึกฝนเยาวชนให้พร้อมที่จะบริการประชาชน
ในฐานะที่เธอเป็นสุภาพสตรีอันดับหนึ่ง นางมิเชลล์ โอบามายังคงอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมเรื่อยมา ในปี 2010 เธอได้ก่อตั้งโครงการ Let’s Move! เพื่อรณรงค์ต่อต้านโรคอ้วนของเยาวชนในสหรัฐฯด้วย
ออง ซาน ซูจี
17. สเตลลา แม็คคาร์ทนีย์
ผู้ยึดถือลัทธิมังสวิรัติ และผู้สนับสนุนองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA  คนนี้เกิดที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 1971 เธอเป็นบุตรคนที่ 2 ของมือเบสวง Beatles พอล แม็คคาร์ทนีย์ กับ ช่างภาพสาวชาวอเมริกัน ลินดา แม็คคาร์ทนีย์ สเตลลากับพี่น้องของเธอเข้าเรียนในโรงเรียนประจำรัฐที่อีสต์ซัสเซ็กส์ เพราะพ่อแม่ของเธออยากเลี้ยงดูลูกๆให้เติบโตขึ้นมาอย่างเป็นสามัญชนที่สุดแม้จะมีชื่อเสียงมากแค่ไหนก็ตาม
ผลงานวิทยานิพนธ์ด้านการออกแบบของเธอเมื่อปี 1995 ที่วิทยาลัยเซนทรัลเซนต์มาร์ตินส์กลายเป็นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เพราะได้นางแบบเป็นสุดยอดนางแบบชื่อดังอย่าง Naomi Campbell, Yasmin Le Bon และ Kate Moss แบรนด์ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษผู้นี้เป็นที่รู้จักว่าไม่เคยใช้หนังหรือขนสัตว์ใดๆในชิ้นงานของเธอ กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวมังสวิรัติคนดังอย่าง Natalie Portman แม้ช่วงแรกๆเธอจะเคยถูกตั้งข้อสงสัยจากการได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากปารีส Chloé เมื่อ มี.ค. 1997 แต่ผลงานการออกแบบของสเตลลา แม็คคาร์ทนีย์ก็แสดงให้เห็นว่าเธอได้นำแบรนด์จนประสบความสำเร็จได้อย่างที่เห็นในทุกวันนี้
ปัจจุบัน สเตลลา แม็คคาร์ทนีย์ แต่งงานกับ Alasdhair Willis และมีลูกๆร่วมกัน 4 คน
ออง ซาน ซูจี
18. Stephanie LaCava
นักเขียนชื่อดัง Stephanie LaCava เกิดที่นิวยอร์ค สหรัฐฯ แต่เติบโตขึ้นในเมืองใกล้ๆกับกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เธอจบการศึกษาสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภาษาฝรั่งเศสที่มหาวิทยาลัยคอลเกตในนิวยอร์ค เธอมักจะสวมใส่ริบบิ้นกำมะหยี่สีดำที่รอบคอ, ข้อมือ, หรือไม่ก็ที่ผมอยู่เสมอๆ เธอเคยกล่าวว่าช่วงเวลาในวัยเด็กของเธอมีแต่ความยากลำบาก จนเธอต้องหันมาเขียนหนังสือเพื่อเบี่ยงเบนปัญหา แถมยังต้องเสียเงินที่ได้จากการรับเลี้ยงเด็กไปกับนิตยสาร Vogue ฉบับสหรัฐฯกับอังกฤษ และหนังสืออื่นๆไปทั้งหมด
งานเขียนของเธอปรากฎอยู่ในนิตยสาร T: The New York Times Style Magazine, Vogue, และนิตยสารสื่อออนไลน์อื่นๆอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Paris Review, Vanity Fair และ Tin House หนังสือเล่มแรกของเธอ 'An Extraordinary Theory of Objects: A Memoir of an Outsider in Paris' ได้รับการตีพิมพ์ในเดือน ธ.ค. 2012 จากเรื่องราวชีวิตที่เติบโตขึ้นในย่านชานเมืองกรุงปารีสของเธอ ปัจจุบัน LaCava ก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ stephanielacava.com ที่เธอมักจะโพสต์เรื่องราวน่าสนใจๆในชีวิตประจำวันของเธออยู่เสมอๆ
ออง ซาน ซูจี
19. ทีน่า เฟย์
ทีน่า เฟย์ มีชื่อเสียงจากความสามารถและทักษะในการสร้างอารมณ์ขัน จากรายการ Saturday Night Live, ซีรีย์ทีวีเรื่อง 30 Rock, หนังเรื่อง Mean Girls และหนังเรื่อง Date Night เธอเป็นเจ้าของ 7 รางวัลเอมมีอวอร์ด, 2 รางวัลลูกโลกทองคำ, 5 รางวัลสกรีนแอตเตอร์สกิลด์อวอร์ดส, 4 รางวัลไรเตอร์กิลด์ออฟอเมริกาอวอร์ดส และเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีจากผลงานหนังสืออัตชีวประวัติชื่อ Bossypants ที่ทำสถิติเป็นหนังสือยอดขายสูงสุดของ The New York Times ยาวนานถึง 5 สัปดาห์
ทีน่า เฟย์ เพิ่งจะรับหน้าที่เป็นพิธีกรงานลูกโลกทองคำคู่กับดาราตลกคู่หู Amy Poehler เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่งานดังกล่าวได้พิธีกรเป็นผู้หญิง 2 คน แถมยังทำผลงานได้เป็นที่น่าชื่นชมและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
ออง ซาน ซูจี
20. หลิว เหวิน
สาวสวย หลิว เหวิน คนนี้เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 1988 ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เธอเริ่มเข้าสู่วงการนางแบบระดับนานาชาติเมื่อช่วง ก.ย. 2007 และกลายเป็นนางแบบคนโปรดประจำวงการหลังจากที่เธอได้โพสต์ท่าถ่ายแบบลงบทบรรณาธิการของนิตยสาร Cosmopolitan ในชุดเสื้อผ้าของ Karl Lagerfeld และ Viktor and Rolf จนปี 2008 เธอก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเอเจนซี่นางแบบชื่อดังจากปารีสอย่าง Marilyn Agency
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2010 หลิว เหวิน ร่วมเดินแบบทั้งหมดกว่า 70 ครั้งให้กับงานแฟชั่นวีคทั้งในนิวยอร์ค, ปารีส, และมิลาน เรียกได้ว่าคิวฮอตจนเป็นรองก็เพียงแต่นางแบบสาวฝรั่งเศส Constance Jablonski เท่านั้น พอ เม.ย. 2010 ทั้ง หลิว เหวิน กับ Jablonski ก็ได้เป็นนางแบบให้กับแบรนด์เครื่องสำอาง Estée Lauder และยังกลายเป็นนางแบบชาวเอเชียคนแรกที่ได้เดินแบบให้กับแบรนด์ชั้นในชื่อดังอย่าง Victoria's Secret และเธอก็ยังเป็นนางแบบให้แบรนด์ชั้นในระดับโลกดังกล่าวต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปี 2013 นี้

แหล่งข้อมูล : news.th.msn.com

AllNewsSite Link ExchangeTop BackLinkSFree Backlink chomientrung24h- SEO Google Free Backlink Exchange For SeoAuto Backlink Gratis Indonesia : Top Link IndoBacklinks USA Free Backlinks Service at BacklinksUSA.com!
Flag Counter
Powered by Blogger