10 โรงแรมสุดยอดไฮเทค
1.โรงแรม Eccleston Square ลอนดอน
โรงแรม Eccleston Square เพิ่งจะคว้ารางวัลนวัตกรรมภายในห้องพักยอดเยี่ยมแห่งปี (In-Room Technology Innovation of the Year) จากงานประกาศรางวัลโรงแรมของยุโรป European Hospitality Awards เมื่อปีก่อน โดยโรงแรมแห่งนี้จัดการกับความหวาดกลัวของแขกที่ต้องพบกับแผงสวิตช์ต่างๆนานาอย่างแสงไฟ สวิตช์ปรับอุณหภูมิ สวิตช์ทีวี สวิตช์อุปกรณ์โน่นนี่นั่น ด้วยอะไรที่ง่ายดายที่สุดอย่าง iPad
คุณสามารถใช้แท็บเล็ตควบคุมได้ทุกอย่าง ไม่ใช่แต่เพียงอุณหภูมิ แสงไฟ ทีวี เวลาปลุก ผ้าม่าน แต้คุณยังสามารถจองโต๊ะอาหาร บริการสปา รวมไปถึงกำหนดเวลาบริการของพนักงานทำความสะอาดห้องผ่าน iPad ได้อีกด้วย
2.โรงแรม Ushuaia Ibiza Beach - Playa d'en Bossa เกาะอีบีซา
โรงแรม Ushuaia ใส่ใจกับเรื่องการแชร์ประสบการณ์ผ่านเฟซบุคอย่างจริงจัง โดยโรงแรมแห่งนี้ติดตั้ง'เสาเฟซบุค'(เสาติดคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานเฟซบุค) ไว้ทั่วสถานที่ แขกสามารถเชคอิน โพสต์รูปภาพ อัพเดทสถานะ ด้วยการแค่โบกริสต์แบนด์ที่ข้อมือผ่านตัวรับสัญญาณ ทั้งยังมีระบบควบคุมแสง LED สีสันต่างๆเผื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ซึ่งล้วนเป็นอะไรที่ล้ำหน้าในวงการโรงแรมเป็นอย่างมาก
3.โรงแรม Peninsula โตเกียว
อาจจะฟังดูเหมือนเป็นบ้านของผู้ร้ายในภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ แต่ Peninsula ก็การันตีว่าตัวเองเป็นโรงแรมกลุ่มเดียวที่มีฝ่ายวิจัยและพัฒนาของตัวเอง ซึ่งสาขาโรงแรมที่โตเกียวนี้มีความลำหน้าที่สุด ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่คุณปิดไฟจะนอน แทนที่จะดับไปดื้อๆให้คุณต้องจมในความมืด ดวงไฟของห้องที่โรงแรมนี้จะค่อยดับลงอย่างนิ่มนวล
มีปุ่มแสงสว่างตอนกลางคืนเพื่อช่วยนำทางให้คุณไปห้องน้ำ ซึ่งก็จะมีปุ่มสปา ที่เมื่อกดแล้วดวงไฟจะค่อยๆหรี่ลง พร้อมๆกับเปิดเพลงเพราะๆให้คุณผ่อนคลาย หรือคุณสามารถใช้มือถือเพื่อปรับประตูให้เป็นแสดงเป็นโหมดส่วนตัวไม่ให้ใครมารบกวน และเมื่อคุณต้องการให้แสงในห้องหรี่ลงมากที่สุด แสงจากนาฬิกาดิจิตอลที่กระจกก็จะดับลงเพื่อไม่ให้แยงตาคุณอีกด้วย
4.โรงแรม Kube ปารีส
โรงแรม Kube ท้าทายความคลาสสิคของเมืองปารีสด้วยนวัตกรรมสุดไฮเทค ตั้งแต่ล็อบบี้ที่ตกแต่งตามสไตล์หนังไซไฟยุค 60 ที่แผนกต้อนรับ จะมีลูกบาศก์แก้วเรือนแสง ลิฟท์ตกแต่งให้ดูคล้ายคลึงกับลิฟท์ข้ามมิติในซีรีย์เรื่อง Doctor Who ในห้องอาหาร จะมีโคมไฟสีแดงที่ปล่อยทั้งแสงและเสียงดนตรีออกมาได้อย่างน่าพิศวง มีเครื่องเล่นเกม Sony PS3 ในทุกๆห้องพัก และที่สำคัญที่สุด คือระบบการรักษาความปลอดภัยในการเข้าห้อง ที่คุณไม่ต้องพกกุญแจอะไรให้ยุ่งยาก เพราะเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
5.รีสอร์ทและคาสิโน Aria ลาสเวกัส
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับใยแก้วนำแสงที่ตรงดิ่งสู่ห้องพักทั้ง 4,004 ห้องของโรงแรม เป็นจุดขายของรีสอร์ทและคาสิโน Aria ที่มีขนาดเท่ากับเมืองย่อมๆแห่งนี้ ด้วยเครือข่ายดังกล่าวทำให้เมื่อแขกเปิดประตู ระบบอัตโนมัติจะควบคุมผ้าม่าน เปิดเพลง เปิดทีวี ปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับอากาศภายนอกได้ในทันที และพอแขกออกไป ระบบของทั้งห้องก็จะปิดลง ช่วยประหยัดทั้งเงินและพลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น โรงแรม Aria ยังบันทึกค่าที่คุณได้ตั้งไว้ตลอดกาล เผื่อว่าคุณจะกลับมาผลาญเงินเล่นที่เวกัสอีก ส่วนแผนการต่อไปของโรงแรมแห่งนี้ก็คือการบันทึกค่าที่คุณได้ตั้งไว้และทำให้ควบคุมได้จากมือถือสมาร์ทโฟนโดยตรง
6.โรงแรม Blow Up Hall เมืองพอซนาน โปแลนด์
เป็นอีกครั้งที่มือถือสมาร์ทโฟนจะสามารถช่วยแขกสัมภาระตุงที่โรงแรม Blow Up Hall ได้ ไม่ต้องมีแผนกต้อนรับ ไม่ต้องพกกุญแจ และไม่ต้องจำแม้แต่หมายเลขห้อง เพราะคุณสามารถใช้ระบบนำทางบนมือถือสมาร์ทโฟนพาไปห้องของคุณเอง รวมทั้งใช้เรียกพนักงานช่วยยกกระเป๋าได้เลยเช่นกัน ชื่อโรงแรม Blow Up Hall นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ยุคปี 60 ของ Antonioni นอกจากนี้โรงแรมยังมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยจอภาพเล็กๆกว่า 2,400 จอที่รวมภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัยทั่วทั่งโรงแรมมาแสดงเป็นอะไรที่คล้ายๆกับงานศิลปะสุดล้ำใจกลางห้องล็อบบี้
7.โรงแรม Hi เมืองนิซ ฝรังเศส
นวัตกรรมมัลติมีเดียของโรงแรม Hi แห่งนี้ไฮเทคสมชื่อ ทุก 38 ห้องของโรงแรมจะมีเก้าอี้โซฟาล้ำสมัยที่มีทั้งลำโพงและหูฟังในตัว ในขณะที่คอลเลคชันเพลงทั้งหมดก็มีให้เลือกได้ง่ายๆบนแท่นวางแขนของคุณนั่นเอง จอคอมพิวเตอร์ที่ผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ในห้องตอบสนองได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ในขณะที่จอทีวีขนาดใหญ่ก็คั่นกลางแบ่งห้องน้ำและห้องนอนออกจากกัน โดยที่คุณสามารถดูได้จากทั้ง 2 ฝั่ง โรงแรมที่เป็นผลงานของดีไซเนอร์สาว Matali Crasse ขยายพรมแดนการตกแต่งห้องในวัฒนธรรมล้ำยุคด้วยการตกแต่งสไตล์พิกเซลขนาดใหญ่บนกำแพง และยังมีกล่องแสงที่ใช้ให้ความสว่างแทนหน้าต่างได้อีกด้วย
8.โรงแรม 1000 ซีแอตเทิล
โรงแรมที่เมืองซีแอตเทิลแห่งนี้น่าจะชื่อว่าโรงแรม 3000 ซะมากกว่า เพราะว่าโรงแรมนั้นได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหนังไซไฟยุคก่อนๆที่ว่าด้วยเรื่องราวในอนาคต มีโต๊ะที่ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์จอสัมผัส Microsoft Surface (เราพยายามพูดถึงแบบเป็นกลางแล้วนะ) ที่คุณสามารถใช้มือควบคุมสั่งการต่างๆได้อย่างน่าประทับใจ มีห้องติดระบบสแกนเนอร์อินฟราเรดที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิห้อง และยังใช้บอกพนักงานทำความสะอาดได้ว่าคุณอยู่ในห้องหรือเปล่า เพื่อจะได้ไม่ต้องมีการเคาะห้องในเวลาที่คุณไม่ต้องการ ทีนี้พวกป้ายห้อยลูกบิดประตูทั้งหลายก็คงจะกลายเป็นแค่อดีตไปแล้วล่ะ
9.โรงแรม Pod นิวยอร์กซิตี้
เหมือนกับโรงแรม Ushuaia ที่เกาะอีบีซ่า โรงแรม Pod มีการปฏิวัติสื่อสังคมออนไลน์ไปไว้ในล็อบบี้ของโรงแรม โรงแรมที่ใจกลางนครนิวยอร์กในราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไปแห่งนี้มีบล็อกของตัวเองที่แขกสามารถเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวรอบๆได้ นอกจากนี้ก็ยังมีอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงและฐานเสียบชาร์ตอุปกรณ์ไอพอดไว้เป็นมาตรฐานให้ทุกๆห้องอีกด้วย
10.โรงแรม Nine Zero บอสตัน
โรงแรม Nine Zero เป็นสถานที่สุดท้ายในการจัดลำดับของเราเพราะความล้ำหน้าอย่างที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ บางที คุณอาจจะต้องเป็นดาราถึงจะสามารถเข้าพักในห้องสวีท Cloud Nine ที่มีวิวสวยราวกับสวรรค์สร้าง อ่างอาบน้ำขนาดยักษ์ และพื้นที่ห้องขนาดกว้างถึง 92 ตารางเมตร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ปัจจัยหรูหราเหล่านั้น เพราะคุณไม่ต้องใช้ทั้งกุญแจ การ์ด หรือแม้แต่ลายนิ้วมือ หากแต่คุณต้องใช้ระบบสแกนม่านตา เพื่อเข้าสู่ห้องพักสุดล้ำแห่งนี้
แหล่งข้อมูล : news.th.msn.com